รูเบ็น อาโมริมเป็นหัวหน้าโค้ชของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 11 พฤศจิกายน ผู้เชี่ยวชาญกล่าวว่าเขาได้ระบุผู้เล่นสองคนที่ถือเป็นปัจจัยสำคัญในห้องแต่งตัวของปีศาจแดง
ด้วยสัญญาที่ยาวนานถึงปี 2027 กับแมนฯ ยูไนเต็ด รูเบน อโมริมจึงยอมรับการท้าทายและออกจากสปอร์ติ้งลิสบอน หลังจากจบการแข่งขันนัดสุดท้ายนำสปอร์ติ้งค์เขาจะออกจากแมนเชสเตอร์อย่างเป็นทางการเพื่อรับตำแหน่งของเขา ในช่วงเวลาดังกล่าว รุด ฟาน นิสเตลรอย จะยังคงรับหน้าที่โค้ชชั่วคราวต่อไป เกมแรกของอาโมริมกับแมนฯ ยูไนเต็ดจะไปเยือนอิปสวิช ทาวน์ในวันที่ 24 พฤศจิกายน
Amorim เข้าครอบครอง MU อย่างเป็นทางการตั้งแต่วันที่ 11 พฤศจิกายน
อาโมริมได้รับความคาดหวังอย่างมากจากคณะกรรมการบริหารของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ซึ่งเชื่อว่าเขามีความสามารถในการปลดล็อกศักยภาพของนักเตะราคาแพงจำนวนหนึ่งแต่ยังไม่ส่องแสงพรสวรรค์อย่างแท้จริง สกายสปอร์ตรายงานว่าผู้นำระดับสูงของแมนฯ ยูไนเต็ดเชื่อว่าสไตล์การฝึกสอนของอาโมริมจะช่วยให้ทีมได้รับมูลค่าสูงสุดจากสัญญาขนาดใหญ่ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง กัปตันทีมคนใหม่รายนี้ระบุผู้เล่นคนสำคัญสองคนในโอลด์ แทรฟฟอร์ด ได้แก่ บรูโน เฟอร์นันเดส และดิโอโก้ ดาโลต์
ปัจจุบัน บรูโน แฟร์นันเดส เป็นกัปตันทีม แมนฯ ยูไนเต็ด คาดว่าเขาจะรับหน้าที่นี้ต่อไปเมื่อ อาโมริม พิจารณาถึงความสำคัญของนักเตะรายนี้ในทีมนอกจากนี้ ดิโอโก้ ดาโลต์ ยังถือเป็นผู้เล่นหลักในการรักษาความมั่นคงและความเป็นมืออาชีพในห้องแต่งตัวอีกด้วย เขาน่าจะรับหน้าที่รองกัปตันทีม เฟอร์นันเดสไม่เพียงแต่เป็นกัปตันทีมเท่านั้น แต่ยังทุ่มสุดตัวในสนามเสมอ บางครั้งการกระทำของเขาทำให้เกิดความขัดแย้ง แต่ยังได้รับการยอมรับว่าเป็นผู้เล่นที่พร้อมเผชิญแรงกดดันและให้ความสำคัญกับผลประโยชน์ของทีมเป็นอันดับแรกเสมอ
Amorim ระบุว่า Bruno Fernandes (ขวา) และ Dalot เป็นผู้เล่นหลักที่ทำให้ห้องแต่งตัว MU มั่นคง ภาพ: เก็ตตี้
คาดว่าอาโมริมจะมีงบซื้อขายไม่มากในเดือนมกราคม ดังนั้นเขาจึงต้องเน้นพัฒนาและปรับปรุงประสิทธิภาพจากทีมชุดปัจจุบัน ตามข้อมูลจาก The Guardian สตาร์ดาวรุ่งที่มีอนาคตสดใสอย่าง Alejandro Garnacho, Rasmus Hojlund และ Kobbie Mainoo ถือเป็นทรัพย์สินที่ขายไม่ได้ และ Amorim มีหน้าที่ช่วยให้พวกเขาพัฒนาต่อไป การมีสองเสาหลักอย่างเฟอร์นันเดสและดาโลต์เป็นรากฐานสำหรับจิตวิญญาณของทีมจะเป็นปัจจัยสำคัญในการช่วยให้อาโมริมทำการเปลี่ยนแปลงเชิงกลยุทธ์ที่โอลด์แทรฟฟอร์ด