Xena: Warrior Princess (2025) เข้าฉายทั่วโลกในวันที่ 18 กรกฎาคม 2025 เป็นภาพยนตร์ฮิตในช่วงซัมเมอร์ ซึ่งถือเป็นการกลับมาอย่างยิ่งใหญ่ของนักรบในตำนานบนจอภาพยนตร์ ภาพยนตร์เรื่องนี้ซึ่งมีงบการผลิตถึง 150 ล้านเหรียญสหรัฐ ถือเป็นการพนันที่มีความเสี่ยงสูงสำหรับสตูดิโอ โดยตั้งเป้าที่จะฟื้นคืนแฟรนไชส์อันเป็นที่รักในยุค 90 ให้กับคนรุ่นใหม่ ขณะเดียวกันก็ต้องตอบสนองความต้องการของแฟน ๆ ตัวยงด้วย
งบประมาณได้รับการจัดสรรเพื่อให้แน่ใจว่าภาพยนตร์เรื่องนี้สามารถถ่ายทอดคำมั่นสัญญาในเรื่องความยิ่งใหญ่อลังการและภาพที่สวยงามตระการตา ส่วนที่สำคัญถูกนำไปใช้ในการสร้างสรรค์ฉากอันตระการตา อาทิ เมืองโบราณ สนามรบอันกว้างใหญ่ และภูมิประเทศในตำนาน ตลอดจน CGI ที่ล้ำสมัย เพื่อเนรมิตให้เหล่าเทพเจ้า สัตว์ประหลาด และฉาก Chakram อันเป็นสัญลักษณ์ของ Xena มีชีวิตขึ้นมา ทีมออกแบบเครื่องแต่งกายยังไม่ละเว้นค่าใช้จ่ายใดๆ เลยในการสร้างชุดเกราะและชุดเครื่องแต่งกายที่มีรายละเอียดซับซ้อนซึ่งได้รับแรงบันดาลใจจากประวัติศาสตร์ ซึ่งทำให้ตัวละครดูทันสมัยในขณะที่ยังคงให้เกียรติรากเหง้าของพวกเขา
แคมเปญการตลาดก็มีความทะเยอทะยานไม่แพ้กัน โดยมีการใช้จ่ายประมาณ 50 ล้านดอลลาร์ในการส่งเสริมการขายทั่วโลก ตัวอย่างภาพยนตร์เผยให้เห็นถึงโทนสีที่มืดหม่นขึ้น การต่อสู้ที่ยิ่งใหญ่อลังการ และความลึกของอารมณ์ ขณะที่แคมเปญบนโซเชียลมีเดียก็ดึงดูดความสนใจทั้งจากแฟนๆ ในอดีตและผู้ชมที่อายุน้อยกว่า นอกจากนี้ สตูดิโอยังได้ร่วมมือกับแบรนด์ใหญ่ๆ มากมายในการโปรโมตร่วมกัน รวมถึงฟิกเกอร์แอคชั่น วิดีโอเกม และหนังสือการ์ตูนรุ่นจำกัดจำนวนที่เป็นภาคก่อนของภาพยนตร์
หลังจากออกฉาย Xena: Warrior Princess (2025) ประสบความสำเร็จในบ็อกซ์ออฟฟิศ โดยทำรายได้ 750 ล้านเหรียญสหรัฐทั่วโลก โดยทำรายได้ 300 ล้านเหรียญสหรัฐจากสหรัฐอเมริกา และ 450 ล้านเหรียญสหรัฐจากต่างประเทศ ความสำเร็จของภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นผลมาจากความสามารถในการสร้างสมดุลระหว่างความทรงจำในอดีตกับการเล่าเรื่องสมัยใหม่ รวมถึงการแสดงอันแข็งแกร่ง โดยเฉพาะการแสดงของนักแสดงนำหญิงที่รับบทเป็นเซน่า ซึ่งได้รับคำชมในเรื่องบุคลิกที่โดดเด่นและอารมณ์ที่ลึกซึ้ง นักวิจารณ์ชื่นชมฉากแอ็กชั่น การสร้างโลก และเคมีระหว่างซีน่ากับกาเบรียลของภาพยนตร์ โดยเรียกมันว่า “การฟื้นคืนชีพของนางเอกในตำนานได้อย่างคู่ควร”